หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


แผนเด็ดป๋ากี้!! วาง คากาวะ ปั้นเกมลุ้นแชมป์พรีเมียร์

หลังจากเปิดตัวกองกลางตัวปั้นเกมสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง ชินจิ คากาวะ อย่างเป็นทางการไปเมื่อวานที่ผ่านมา เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือสมองเพชรได้โอกาสออกมาเปรยถึงแผนการเล่นที่จะใช้ลงสู้ศึกพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2012-13 ว่าจะใช้ ชินจิ คากาวะ ลงไปเป็นตัวปั้นเกมในแดนกลางเพื่อลุ้นแชมป์
โดยแผนการเล่น ป๋ากี้ นั้นได้เปรยว่าจะใช้ระบบ 4-2-3-1 ซึ่งจะมี เวย์น รูนี่ย์ เป็นหน้าเป้า ส่วนตัวรุก 3 คนจะเป็น อันโตนิโอ บาเลนเซีย และ แอชลี่ย์ ยัง ถ่างเล่นริมเส้น ส่วน ชินจิ คากาวะ จะเป็นเพลย์เมคเกอร์อยู่ด้านหลัง เวย์น รูนี่ย์
ส่วนอีกระบบคือ 4-3-1-2 จะใช้กองหน้าสองตัวลงสนาม คือ แดนนี่ เวลเบค จับคู่กับ เวย์น รูนี่ย์ โดยมี ชินจิ คากาวะ จะเป็นเพลย์เมคเกอร์อยู่ด้านหลัง และอัดมิดฟิลด์ตัวกลางไป 3 คน คือ พอล สโคลล์, ไมเคิ่ล คาร์ริค และจับเอา อันโตนิโอ บาเลนเซีย มาเป็นตัวไล่บีบเกมกลางสนาม

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555




ปรีวิว ฟุตบอลยูโร 2012 รอบรองชนะเลิศ
วันพุธที่ 27 มิถุนายน 2555
โปรตุเกส        -        สเปน เวลา : 01.45 น.     ถ่ายทอดสด : ช่อง 3


สนาม: ดอนบาสส์ อารีน่า, โดเน็ตส์ค, ยูเครน

        เปาโล เบนโต้ กุนซือของทีมชาติโปรตุเกส ทีมอันดับ 10 ของโลก จากการจัดอันดับของฟีฟ่า แรงกิ้ง ล่าสุดนั้น โชว์ฟอร์มได้ดีในรายการนี้จนถูกยกย่องให้เป็นม้ามืดที่มีโอกาสคว้าแชมป์ หลังจากรอบก่อนรองชนะเลิศเฉือนเอาชนะ สาธารณรัฐเช็ก ลงได้อย่างสนุก 1-0 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา

        ในเกมรอบตัดเชือกนี้ทั้งสองทีมไม่มีปัญหาเรื่องผู้เล่นติดโทษแบนสักราย หลังจากทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูเอฟ่า) มีการล้างโทษใบเหลืองให้กับผู้เล่นที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่และไม่ได้โดนเพิ่มมาอีกในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ

        แมตซ์นี้ โปรตุเกส ต้องปราศจาก เอลแดร์ ปอสติก้า หัวหอกตัวเป้าคนเก่งที่เล่นเป็นตัวจริงมาตลอดทั้ง 4 นัด และ ซัดได้ 1 ประตู นั้น แต่มาบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาจากเกมชนะ สาธารณรัฐเช็ก จนต้องชวดลงสนามตลอดทั้งทัวร์นาเม็นท์

        จากกรณีนี้ทำให้ อูโก้ อัลเมยด้า กองหน้าร่างใหญ่วัย 28 ปี จากสโมสรเบซิคตัส ในลีกสูงสุดของตุรกี ที่สูงถึง 191 เซนติเมตร ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแทน และเป็นตัวจริงนัดแรกในรายการนี้

        ระบบการเล่นใช้สูตร 4-3-3 วาง รุย ปาตริซิโอ นายทวารมือ 1 ของทีมลงมาเฝ้าเสา แนวรับ เจา เปเรยร่า, เปเป้, บรูโน่ อัลเวส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา ยืนด้วยกันเหมือนเดิม

        ห้องเครื่องของทีมวาง ราอูล เมยเรเลส, เจา มูตินโญ่, มิเกล เวโลโซ่ ผนึกกำลังช่วยกันทั้งเกมรุกและรับ

        สามประสานแดนหน้าจัดจ้านอันตรายทั้ง หลุยส์ นานี่, อูโก้ อัลเมยด้า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวดังของทีมที่ซัดไปแล้ว 3 ประตูในทัวร์นาเม็นท์นี้จนนำเป็นดาวซัลโวร่วมอยู่นั้น ลงล่าตาข่าย 

        สลับมาดูทาง บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือ"ทัพกระทิงดุ" ทีมชาติสเปน แชมป์เก่ายูโร 2008 และ แชมป์โลกปี 2010 ยังคงโชว์ฟอร์มได้มาตรฐาน โดยผลงานรอบแบ่งกลุ่มนั้น เสมอ อิตาลี 1-1, ต้อน สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 4-0 และ เชือด โครเอเชีย 1-0 คว้าแชมป์กลุ่มซี. ก่อนที่เกมรอบก่อนรองชนะเลิศนั้นเอาชนะ ฝรั่งเศส มาได้สวยงาม 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา

        รูปแบบการเล่นนั้นใช้สูตร 4-3-3 ให้ อีเกร์ กาซียาส นายทวารจอมเก๋าที่รับบทกัปตันทีมชาติสเปนด้วยนั้นลงเฝ้าเสาเป็นนัดที่ 136 โดยมี อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปีเก้ และ จอร์ดี้ อัลบา ยืนเป็นแผงหลัง

        แผงมิดฟิลด์นั้นวาง ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ ชาบี อลอนโซ่ ลงเล่นร่วมกัน โดยรายหลังนั้นเพิ่งเหมาทำคนเดียวสองประตูในเกมเอาชนะฝรั่งเศส 2-0 อันเป็นการรับใช้ทีมชาติสเปนครบ 100 นัดของ อลอนโซ่ ด้วย

        แนวรุกให้ ดาบิด ซิลบา, เชส ฟาเบรกาส และ อันเดรส อิเนียสต้า ลงล่าตาข่าย โดยรายของ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าจากสโมสรเชลซี คงต้องนั่งสำรองอีก เพราะ เดล บอสเก้ ต้องการยึดรูปแบบ 4-3-3 ลงเล่นแบบไม่มีกองหน้าอาชีพต่อไปอีกนัด

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม


โปรตุเกส:



        รุย ปาตริซิโอ - เจา เปเรยร่า, บรูโน่ อัลเวส, เปเป้, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - ราอูล เมยเรเลส, มิเกล เวโลโซ่, เจา มูตินโญ่ - หลุยส์ นานี่, อูโก้ อัลเมยด้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตันทีม)



สเปน:

        อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปีเก้, จอร์ดี้ อัลบา - ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่ - ดาบิด ซิลบา, เชส ฟาเบรกาส (เฟร์นานโด ตอร์เรส), อันเดรส อิเนียสต้า

        ผู้ตัดสิน
: คูเนย์ต ซาคีร์ (ตุรกี)

ผู้เล่นที่ติดโทษของทั้งสองทีม
โปรตุเกส :
- ติดโทษแบน : ไม่มี
- ใบเหลือง : ไม่มี

สเปน :
- ติดโทษแบน : ไม่มี
- ใบเหลือง : ไม่มี


เผยสถิติพบกันกระทิงเหนือกว่าเยอะ

        ก่อนหน้าที่ทั้งสองทีมนี้จะพบกันนั้น ได้มีการเปิดเผยผลงานการเจอกันในอดีตออกมา ปทะกันทั้งสิ้น 34 นัด สเปน เป็นฝ่ายคว้าชัยไปได้ 16 นัด ส่วน โปรตุเกส ชนะไปแค่ 6 ครั้งเท่านั้นเอง ที่เหลืออีก 12 นั้น ลงเอยด้วยการเสมอกันไป

        ทั้งคู่เจอกันนัดแรกในเกมกระชับมิตร เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ปีค.ศ. 1921 ซึ่ง สเปน เปิดบ้านในกรุงมาดริด เอาชนะไปได้ 3-1 ก่อนที่ปีต่อมาเจอกันในนัดกระชับมิตรที่ลิสบอน ผลปรากฏว่า สเปน บุกชนะ 2-1

        จากนั้นในเดือนมีนาคม ปี 1934 ทั้งสองทีมเจอกันในเกมอย่างเป็นทางการนัดแรกในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป สเปน เปิดบ้านในมาดริด ถล่ม โปรตุเกส ไปกระจุยด้วยสกอร์มโหฬาร 9-0

        นัดแรกที่ โปรตุเกส เอาชนะ สเปน ได้นั้น เกิดขึ้นในนัดกระชับมิตรเมื่อปี 1947 โดยเปิดรังในกรุงลิสบอน ถล่ม กระทิงดุ ไปหายห่วง 4-1 ลบสถิติอันเลวร้ายไม่ชนะสเปนใน 15 นัดแรกที่เจอกันลงได้สำเร็จ



แฉเจอกันครั้งหลังสุดฝอยทองต้อน 4-0

        อย่างไรก็ดี หากนับเฉพาะการเจอกัน 5 นัดหลังสุดจากทุกรายการนั้น ต้องบอกว่าสูสีกันอย่างยิ่ง ผลัดกันชนะทีมละ 2 นัด ที่เหลืออีกหนึ่งเกมนั้นลงเอยด้วยการเสมอกันไป

        เกมเดียวที่เสมอกันในห้านัดหลังนั้นต้องย้อนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2002 ในเกมอุ่นเครื่องที่บาร์เซโลน่า ลงเอยด้วยการเจ๊ากัน 1-1 ก่อนที่ปีต่อมา สเปน จะบุกมาเอาชนะ 3-0 ในเกมอุ่นเครื่องที่ลิสบอน

        กระนั้นก็ดีการเจอกันล่าสุดนัดอุ่นเครื่องที่ลิสบอน เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2010 นั้น โปรตุเกส ไล่ต้อน สเปน กระจุย 4-0

        ทว่าหากนับเฉพาะเกมการแข่งขันที่เป็นทางการนั้น เจอกันล่าสุดในฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย ที่เคป ทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ปี 2010 นั้น สเปน เฉือนชนะหวิว 1-0


ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติม

อันดับ ฟีฟ่า
- โปรตุเกส : อันดับ 10
- สเปน : อันดับ 1


สภาพอากาศ : แดดออก- อุณหภูมิสูงสุด 25 เซลเซียส
- อุณหภูมิต่ำสุด 14 เซลเซียส


สถิติที่เคยพบกันของทั้งคู่
- 18/11/10 โปรตุเกส  4 - 0  สเปน กระชับมิตร
- 30/06/10 สเปน  1 - 0  โปรตุเกส ฟุตบอลโลก 2010
- 21/06/04 สเปน  0 - 1  โปรตุเกส  ยูโร 2004
- 07/09/03 โปรตุเกส  0 - 3  สเปน  กระชับมิตร
- 14/02/02 สเปน  1 - 1  โปรตุเกส กระชับมิตร
- 19/01/94 สเปน 2 - 2  โปรตุเกส กระชับมิตร
- 15/01/92 โปรตุเกส  0 - 0  สเปน กระชับมิตร


ผลงาน10นัดหลังสุด
โปรตุเกส :- 12/10/11 แพ้ เดนมาร์ก  1-2 (เยือน) ยูโรรอบคัดเลือก
- 12/11/11 เสมอ บอสเนีย 0 - 0 (เยือน) ยูโรรอบคัดเลือก
- 16/11/11 ชนะ บอสเนีย 6 - 2  (เหย้า) ยูโรรอบคัดเลือก
- 01/03/12 เสมอ โปแลนด์ 0 - 0(เยือน) กระชับมิตร
- 26/05/12 เสมอ มาซิโดเนีย 0 - 0 (เหย้า) กระชับมิตร
- 03/06/12 แพ้ ตุรกี 1 - 3 (เหย้า) กระชับมิตร
- 09/06/12 แพ้ เยอรมัน 0-1 (สนามกลาง)ยูโร2012
- 13/06/12 ชนะ เดนมาร์ก 3-2 (สนามกลาง)ยูโร2012
- 17/06/12 ชนะ ฮอลแลนด์ 2-1 (สนามกลาง)ยูโร2012
- 21/06/12 ชนะ เช็ก 1-0 (สนามกลาง) ยูโร 2012

สเปน :
- 13/11/11 แพ้ อังกฤษ 0-1 (เยือน)  กระชับมิตร
- 16/11/11 เสมอ คอสตา ริก้า  2 - 2 (เยือน) กระชับมิตร
- 01/03/12 ชนะ เวเนซูเอล่า  5 - 0 (เหย้า) กระชับมิตร
- 26/05/12 ชนะ เซอร์เบีย 2 - 0 (เหย้า)  กระชับมิตร
- 31/05/12 ชนะ เกาหลีใต้ 4 - 1 (เหย้า)  กระชับมิตร
- 04/06/12 ชนะ จีน 1 - 0 (เหย้า) กระชับมิตร
- 10/06/12 เสมอ อิตาลี 1-1 (สนามกลาง) ยูโร 2012
- 14/06/12 ชนะ ไอร์แลนด์ 4-0 (สนามกลาง) ยูโร 2012
- 18/06/12 ชนะ โครเอเชีย 1-0 (สนามกลาง) ยูโร 2012
- 23/06/12 ชนะ ฝรั่งเศส 2-0 (สนามกลาง) ยูโร 2012


ข้อมูลสนามแข่งขัน




ดอนบาส อารีน่า

เมือง : โดเนตส์
ความจุ : 50,000
สโมสรที่ใช้ : ชัคเตอร์ โดเนทส์ค
เปิดใช้ : สิงหาคม ปี 2009


ข้อมูลผู้ตัดสิน




คูเนย์ต คาคีร์
 (ตุรกี)
เกิด : วันที่ 23 พฤศจิกายน 1976
อายุ : 36 ปี
อาชีพ : ตัวแทนประกันภัย
 

วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เทคนิคการอ่าน

การอ่าน คือ การรับรู้ความหมายจากถ้อยคำที่ตีพิมพ์อยู่ในสิ่งพิมพ์หรือในหนังสือ เป็นการรับรู้ว่าผู้เขียนคิดอะไรและพูดอะไร โดยเริ่มต้นทำความเข้าใจถ้อยคำแต่ละคำเข้าใจวลี เข้าใจประโยค ซึ่งรวมอยู่ในย่อหน้า เข้าใจแต่ละย่อหน้า ซึ่งรวมเป็นเรื่องราวเดียวกัน
การอ่านเป็นการบริโภคคำที่ถูกเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือหรือสัญลักษณ์ การอ่านโดยหลักวิทยาศาสตร์ เริ่มจากการที่แสงตกกระทบที่สื่อ และสะท้อนจากตัวหนังสือผ่านทางเลนส์นัยน์ตา และประสาทตาเข้าสู่เซลล์สมองไปเป็นความคิด (Idea) ความรับรู้ (Perception) และก่อให้เกิดความจำ (Memory) ทั้งความจำระยะสั้น และความจำระยะยาว

กระบวนการอ่าน มี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นแรก การอ่านออก อ่านได้ หรืออ่านออกเสียงได้ถูกต้อง ขั้นที่สองการอ่านแล้วเข้าใจ ความหมายของคำ วลี ประโยค สรุปความได้ ขั้นที่สามการอ่านแล้วรู้จักใช้ความคิด วิเคราะห์ วิจารณ์และออกความเห็นในทางที่ขัดแย้งหรือเห็นด้วยกับผู้เขียนอย่างมีเหตุผล และขั้นสุดท้ายคือการอ่านเพื่อนำไปใช้ ประยุกต์ใช้ในเชิงสร้างสรรค์ ดังนั้นผู้ที่อ่านได้และอ่านเป็นจะต้องใช้กระบวนการทั้งหมดในการอ่านที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการถ่ายทอดความหมายจากตัวอักษรออกมาเป็นความคิด และจากการคิดที่ได้จากการอ่านผสมผสานกับประสบการณ์เดิม และสามารถความคิดนั้นไปใช้ประโยชน์ต่อไป



คุณค่าของการอ่าน วัตถุประสงค์ในการอ่านของแต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกันออกไป เช่น อ่านเพื่อความรู้ อ่านเพื่อให้เกิดความคิด อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน อ่านเพื่อความจรรโลงใจ เป็นต้น ซึ่งผู้อ่านจำเป็นต้องทราบจุดมุ่งหมายของการอ่านนั้นๆ ไว้ก่อนการอ่านทุกครั้ง อย่างไรก็ตามการอ่านมีความสำคัญต่อชีวิตที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นการช่วยให้ได้รับข้อมูลข่าวสารเพื่อประกอบการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน การอ่านมีความจำเป็นต่อการศึกษาเล่าเรียน ทั้งในระบบและนอกระบบ คนที่เรียนหนังสือเก่งมักจะเป็นคนที่อ่านหนังสือเก่ง เพราะการอ่านช่วยให้ได้รับความรู้และความเข้าใจที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ และสามารถศึกษาต่อในระดับสูงได้ การอ่านมีคุณค่าต่อมนุษย์ เนื่องจากเป็นการสนองความต้องการของมนุษย์ ทำให้มนุษย์เกิดความรู้ ยกระดับสติปัญญาให้สูงขึ้น ทำให้มนุษย์เกิดความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาความคิดให้ก้าวหน้า ส่งผลต่อการพัฒนาในอาชีพ ทำให้มนุษย์ทันต่อเหตุการณ์ ได้รับความรู้เพิ่ม ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ช่วยให้มนุษย์สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ และสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้ ช่วยพัฒนาจิตใจให้งอกงาม ช่วยขจัดความทุกข์ ความเศร้าหมอง การอ่านทำให้เกิดความเข้าใจ ความร่วมมือในการอยู่ร่วมกันในสังคม เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ได้รับความเพลิดเพลินและพักผ่อนหย่อนใจ 


การเตรียมพร้อมเพื่อการอ่าน 
การอ่านจะดำเนินไปได้ดีเพียงใดขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ และองค์ประกอบที่อยู่ภายในร่างกาย การอ่านท่ามกลางบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม จะนำมาซึ่งประสิทธิและประสิทธิผลในการอ่าน ทั้งนี้ควรคำนึงถึง
  1. การจัดสถานที่และสิ่งแวดล้อม สถานที่ที่เหมาะกับการอ่านควรมีความเงียบสงบ ตัดสิ่งต่างๆ ที่รบกวนสมาธิออกไป มีอุณหภูมิและแสงสว่างที่เหมาะสม มีโต๊ะที่มีความสูงพอเหมาะและเก้าอี้ที่นั่งสบายไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป
  2. การจัดท่าของการอ่าน ตำแหน่งของหนังสือควรอยู่ห่างประมาณ 35-45 เซนติเมตร และหน้าหนังสือจะต้องตรงอยู่กลางสายตา ควรนั่งให้หลังตรงไม่ควรนอนอ่าน ทั้งนี้เพื่อให้สมองได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงอย่างเต็มที่ ก็จะทำให้เกิดการตื่นตัวต่อการรับรู้ จดจำ และอ่านได้นาน
  3. การจัดอุปกรณ์ช่วยในการอ่าน การอ่านอาจมีอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น กระดาษสำหรับบันทึกดินสอ ปากกา ดินสอสี
  4. การจัดเวลาที่เหมาะสม สำหรับนักศึกษาที่ต้องมีการทบทวนบทเรียนควรอ่านหนังสือในช่วงที่เหมาะสมคือช่วงที่ที่ไม่ดึกมาก คือ ตั้งแต่ 20.00 - 23.00 น. เนื่องจากร่างกายยังไม่อ่อนล้าเกินไปนัก หรืออ่านในตอนเช้า 5.00-6.30 น. หลังจากที่ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ในการอ่านแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 50 นาทีและให้เปลี่ยนแปลงอิริยาบถสัก 10 นาทีก่อนลงมืออ่านต่อไป
  5. การเตรียมตนเอง ได้แก่ การทำจิตใจให้แจ่มใส มีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจ และมีสมาธิในการอ่าน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ มีสุขภาพสายตาที่ดี ตัดปัญหารบกวนจิตใจให้หมด การแบ่งเวลาให้ถูกต้อง และมีระเบียบวินัยในชีวิตโดยให้เวลาแต่ละวันฝึกอ่านหนังสือ และพยายามฝึกทักษะใหม่ๆ ในการอ่าน เช่น ทักษะการอ่านเร็วอย่างเข้าใจ เป็นต้น
การเลือกสรรวัสดุการอ่านการเลือกสรรวัสดุการอ่าน ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของการอ่าน เช่น การอ่านเพื่อการศึกษา การอ่านเพื่อหาข้อมูลประกอบการทำงาน การอ่านเพื่อความเพลิดเพลิน การอ่านเพื่อฆ่าเวลา การรู้จักเลือกวัสดุการอ่านที่มีประโยชน์จะช่วยให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์ตามเป้าหมาย การเลือกสรรวัสดุการอ่านมีความสัมพันธ์กับการเลือกใช้ทรัพยากรสารนิเทศในห้องสมุด เช่น
  1. การอ่านเพื่อความรู้ เช่น ตำราวิชาการ
  2. การอ่านเพื่อความบันเทิงใจ
  3. การอ่านเพื่อเป็นกำลังใจ เสริมสร้างปัญญา เช่น หนังสือจิตวิทยา หนังสือธรรมะ
  4. การอ่านเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
เมื่อเลือกวัสดุการอ่านหรือหนังสือได้แล้ว ก็จะต้องกำหนดว่าต้องการอะไรข้อมูลในลักษณะใดจากหนังสือเล่มนั้น ขอบเขตของข้อมูลในลักษณะกว้างหรือแคบแต่ลึกซึ้ง ทั้งนี้เพื่อกำหนดรูปแบบการอ่านเพื่อความต้องการต่อไป


การกำหนดจุดมุ่งหมายการอ่าน
การรู้ความมุ่งหมายในการอ่านเปรียบเหมือนการรู้จุดหมายปลายทางของการเดินทาง ทำให้สามารถเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ต่างๆ และเดินทางไปสู่ที่หมายได้ นักอ่านที่ดีควรมีจุดมุ่งหมายว่าต้องการอ่านเพื่ออะไร เพื่อจะได้กำหนดวิธีอ่านได้เหมาะสม การอ่านเพื่อการศึกษาค้นคว้าและทำรายงาน มีจุดมุ่งหมายดังนี้
1. อ่านเพื่อความรู้พื้นฐาน เป็นการอ่านเพื่อรู้เรื่องโดยสังเขป หรือเพื่อลักษณะของหนังสือ เช่น การอ่านเพื่อ รวบรวมสิ่งพิมพ์ที่จะใช้ในการค้นคว้าและเขียนรายงาน
2. อ่านเพื่อรวบรวมข้อมูล เป็นการอ่านให้เข้าในเนื้อหาสาระ และจัดลำดับความคิดได้ เพื่อสามารถรวบรวม และบันทึกข้อมูลสำหรับเขียนรายงาน
3. อ่านเพื่อหาแนวคิด หมายถึง การอ่านเพื่อรู้ว่าสิ่งที่อ่านนั้นมีแนวคิดหรือสาระสำคัญอย่างไร จะนำไปใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ ในลักษณะใด เช่น การอ่านบทความ และสารคดีเพื่อหาหัวข้อสำหรับเขียนโครงร่างรายงาน
4. อ่านเพื่อวิเคราะห์หรือวิจารณ์ คือการอ่านเพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งพอที่จะนำความรู้ไปใช้ หรือแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ เรื่องที่อ่านได้ เช่น การอ่านบทความที่แสดงความคิดเห็น การอ่านตารางและรายงาน


วิธีการอ่านที่เหมาะสมการอ่านมีหลายระดับและมีวิธีการต่างๆ ตามความมุ่งหมายของผู้อ่าน และประเภทของสื่อการอ่าน การอ่านเพื่อการศึกษา ค้นคว้าและเขียนรายงาน อาจใช้วิธีอ่านต่าง ๆ เช่น การอ่านสำรวจ การอ่านข้าม การอ่านผ่าน การอ่านจับประเด็น การอ่านสรุปความ และการอ่านวิเคราะห์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
  1. การอ่านสำรวจ คือ การอ่านข้อเขียนอย่างรวดเร็ว เพื่อรู้ลักษณะโครงสร้างของข้อเขียน สำนวนภาษา เนื้อเรื่องโดยสังเขป เป็นวิธีอ่านที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเลือกสรรสิ่งพิมพ์ สำหรับใช้ประกอบการค้นคว้า หรือการหาแนวเรื่องสำหรับเขียนรายงาน และรวบรวมบรรณานุกรมในหัวข้อที่เขียนรายงาน
  2. การอ่านข้าม เป็นวิธีอ่านอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าใจเนื้อหาของข้อเขียน โดยเลือกอ่านข้อความบางตอน เช่น การอ่านคำนำ สาระสังเขป บทสรุป และการอ่านเนื้อหาเฉพาะตอนที่ตรงกับความต้องการ เป็นต้น
  3. การอ่านผ่าน เป็นการอ่านแบบกวาดสายตา (Scanning Reading) โดยผู้อ่านจะทำการกวาดสายตาอย่างรวดเร็วไปยังสิ่งที่เป็นเป้าหมายในข้อเขียน เช่น คำสำคัญ ตัวอักษร หรือ สัญลักษณ์ แล้วอ่านรายละเอียดเฉพาะที่เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการ เช่น การอ่านเพื่อค้นหาชื่อในพจนานุกรม และการอ่านแผนที่
  4. การอ่านจับประเด็น หมายถึง การอ่านเรื่องหรือข้อเขียนโดยทำความเข้าใจสาระสำคัญในขณะที่อ่าน มักใช้ในการอ่านข้อเขียนที่ไม่ยาวนัก เช่น บทความ การอ่านเร็วๆ หลายครั้งจะช่วยให้จับประเด็นได้ โดยการอ่านมีเทคนิคคือ ต้องสังเกตคำสำคัญ ประโยคสำคัญที่มีคำสำคัญ และทำการย่อสรุปบันทึกประโยคสำคัญไว้ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป
  5. การอ่านสรุปความ หมายถึง การอ่านโดยสามารถตีความหมายสิ่งที่อ่านได้ถูกต้องชัดเจนเข้าใจเรื่องอย่างดี สามารถแยกส่วนที่สำคัญหรือไม่สำคัญออกจากกัน รู้ว่าส่วนใดเป็นข้อเท็จจริง หรือข้อคิดเห็น ส่วนใดเป็นความคิดหลัก ความคิดรอง การอ่านสรุป ความมีสองลักษณะคือ การสรุปแต่ละย่อหน้าหรือแต่ละตอน และสรุปจากทั้งเรื่อง หรือทั้งบท การอ่านสรุปความควรอย่างอย่างคร่าว ๆ ครั้งหนึ่งพอให้รู้เรื่อง แล้วอ่านละเอียดอีกครั้งเพื่อเข้าใจเรื่องอย่างดี หลักจากนั้นตั้งคำถามตนเองในเรื่องที่อ่านว่าเกี่ยวกับอะไร มีเรื่องราวอย่างไร แล้วเรียบเรียงเนื้อหาเป็นสำนวนภาษาของผู้สรุป
  6. การอ่านวิเคราะห์ การอ่านเพื่อค้นคว้าและเขียนรายงานโดยทั่วไปต้องมีการวิเคราะห์ความหมายของข้อความ ทั้งนี้เพราะผู้เขียนอาจใช้คำและสำนวนภาษาในลักษณะต่าง ๆ อาจเป็นภาษาโดยตรงมีความชัดเจนเข้าใจง่าย ภาษาโดยนัยที่ต้องทำความเข้าใจ และภาษาที่มีความหมายตามอารมณ์และความรู้สึกของผู้เขียน ผู้อ่านที่มีความรู้เรื่องคำศัพท์และสำนวนภาษาดี มีประสบการณ์ ในการ อ่านมากและมีสมาธิในการอ่านดี ย่อมสามารถวิเคราะห์ได้ตรงความหมายที่ผู้เขียนต้องการสื่อ และสามารถเข้าใจเรื่องที่อ่านได้ดี

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ด่วน! สตช.ประกาศการสอบตำรวจชั้นประทวนทั่วประเทศเป็นโมฆะ-จะมีการสอบใหม่ หลังพบการทุริตสอบครั้งมโหฬาร ผบ.ตร.ลั่นเอาจริง เตือนแก๊งโกงข้อสอบให้หยุด รวยเป็นร้อยล้านแล้วอย่าทำอีก ตอนนี้รู้ตัวแล้ว-ไม่ปล่อยให้ลอยนวลแน่นอน เตรียมหาหลักฐานจับกุมเพิ่ม โยงติวเตอร์หน้ารามคำแหง ยันข้อสอบไม่ได้รั่ว แต่แก๊งโกงใช้วิธีส่งคนเข้าไปสอบ แล้วส่งสัญญาณคำตอบออกมานอกห้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมแนวทางการสืบสวนการทุจริตสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกที่จบวุฒิ ม.6 หรือเทียบเท่าเข้าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผบช.ศ.และตัวแทนจาก บช.ภ.2 , 3 , 5 , 6 เข้าร่วมประชุมด้วย โดยภายหลังประชุมจะมีการแถลงว่า จะยกเลิกการสอบหรือชะลอการประกาศผลสอบหรือไม่ 
โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อสรุปการสืบสวนการทุจริตการสอบ ซึ่งเบื้องต้นได้รับฟังข้อมูลจาก ผบช.ภ.3 ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย พร้อมเครื่องส่งสัญญาณ โดยเชื่อว่าการก่อเหตุครั้งนี้ทำเป็นเครือข่ายขบวนการที่ใหญ่โต และขณะนี้ทางตำรวจรู้ตัวผู้อยู่เบื้องหลังหมดแล้ว ที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด โดยยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มกวดวิชาหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องที่สามารถจับกุมตัวได้แล้ว อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าข้อสอบไม่ได้รั่วออกไปอย่างแน่นอน แต่ขบวนการนี้มีลักษณะการก่อเหตุแบบส่งคนเข้าไปสอบ ก่อนส่งสัญญาณออกมานอกห้อง เพื่อให้กลุ่มขบวนการด้านนอกยิงสัญญาณเข้ามาอีกชั้นหนึ่ง ทั้งนี้ยังไม่ทราบตัวบุคคลที่รับหน้าที่เข้าไปส่งสัญญาณในห้องสอบ
“ขณะนี้ตำรวจรู้ขั้นตอนการทำงานของกลุ่มทุจริตนี้แล้ว จึงขอเตือนว่าเรารู้ว่าคุณทำมาหลายครั้ง ไม่ใช่เฉพาะการสอบตำรวจเท่านั้น พวกคุณร่ำรวยมากเป็นร้อยล้านแล้ว ฉะนั้นอย่าทำอีก โดยครั้งนี้เราไม่ปล่อยให้กระทำผิดซ้ำอีกและเราจะดำเนินคดีอย่างแน่นอน” ผบ.ตร.กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รอง ผบช.ภ.3 กล่าวว่า ขั้นตอนการทุจริตการสอบครั้งนี้ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบว่าจะมีการนัดแนะกับกลุ่มผู้ปกครอง โดยนำรถตู้ 3 คันไปรับผู้เข้าสอบ 30 คน เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อไปเข้าอบรมทำการเรียนรู้การใช้เครื่องสั่นที่โรงแรมวีวัน จ.นครราชสีมา ที่มีการจองห้องพักจำนวน 20 ห้อง และในช่วงเช้าวันที่ 10 มิ.ย.ที่เป็นวันสอบ จะมีการอบรมวิธีการซ่อนเครื่องรับสัญญาณว่า ควรจะแอบซ่อนไว้ตรงส่วนไหน รวมถึงบอกขั้นตอนว่าก่อนการสอบจะมีการส่งสัญญาณในลักษณะใด ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า หลังจากเข้าห้องสอบประมาณ 1.30 ชั่วโมง จะมีการส่งสัญญาณให้เตรียมตัวเป็นจังหวะสั่นยาวๆ 2 ครั้ง ก่อนจะมีการส่งสัญญาณสั่นมาทีละข้อ ติดต่อกันจำนวน 120 ข้อ ซึ่งข้อ ก.สั่น 1 ครั้ง , ข.สั่น 2 ครั้ง , ค.สั่น 3 ครั้ง , ง.สั่น 4 ครั้ง เมื่อจบรอบแรกแล้ว จะมีการทวนคำตอบทั้งหมดอีก 1 รอบ
“ทั้งนี้ก่อนเข้าห้องสอบเราสามารถจับกุมได้ 7 คน ซึ่งตรงนี้แสดงว่ามีผู้หลงเหลือเข้าห้องสอบอีกประมาณ 23 คน แต่หลังสอบเสร็จเราสามารถจับกุมได้เพิ่ม 20 กว่าคน ซึ่งส่วนใหญ่ให้การทำนองเดียวกันว่ามาจาก จ.ศรีษะเกษ ฉะนั้นจึงเชื่อว่าเป็นขบวนการเดียวกันทั้งหมด จากนั้นตำรวจได้ขยายผลติดตามรถตู้ไปยังโรงแรมวีวัน ก่อนจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 3 คน ประกอบด้วย นางเตือนใจ พงษ์พันธ์ อายุ 45 เป็นครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ศรีษะเกษ และมีสามีเป็นนายดาบตำรวจที่ สภ.ศรีษะเกษ นายธนกร วิเศษ อายุ 36 ปี และนางศตพร วิเศษ อายุ 37 ปี เป็นครูเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ศรีษะเกษ ภรรยาของนายธนกร พร้อมของกลางเป็นเสื้อเชิ๊ตที่ติดเครื่องรับสัญญาณ” รอง ผบช.ภ.3 กล่าว   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการประชุมว่าจะยกเลิกการสอบหรือชะลอการประกาศผลสอบหรือไม่นั้น ในที่สุดได้ข้อสรุปว่าให้การสอบทั้งหมดเป็นโมฆะ และจะมีการสอบใหม่ทั่วประเทศ
ทางด้าน สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา  พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3  เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี จับกุมขบวนการโกงสอบเข้านายสิบตำรวจ ว่า ล่าสุด พ.ต.ท.อนันต์ พิมพ์เจริญ รองผู้กำกับงานสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา นำหมายศาลจังหวัดนครราชสีมา เลขที่ 168 /2555 ลงวันที่ 11 มิ.ย.  มอบให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา  เข้าทำการจับกุมตัวนายดาชัย อุชุโกศลการ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่  1/8  หมู่ 2 ต.ปงเตา อ.ลำปาง จ.ลำปาง  ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง และ ประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย  โดยออกหมายจับกุม ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อน ได้ซักทอดว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการดังกล่าว
จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีการรวมตัวกันทำการทุจริตสอบมาแล้วหลายครั้งในการสอบคัดเลือกบรรจุเข้าไปราชการหน่วยงานต่างๆ แต่ทั้งนี้รายละเอียดจะเป็นอย่างไรยังคงต้องอผลการสอบสวนที่ชัดเจนอีกครั้งและขายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป.